การทำ Digital Detox ไม่ได้หมายถึงการทิ้งเทคโนโลยีไปตลอดกาล แต่เป็นการจัดสรรเวลาให้เหมาะสม ลดการเสพติดการเลื่อนหน้าจออย่างไร้จุดหมาย เพื่อหันมาใส่ใจสิ่งรอบตัวมากขึ้น ประโยชน์ของการพักจากโลกดิจิทัลนั้นมีมากมายเกินกว่าจะมองข้าม

อย่างแรกเลยคือ สุขภาพกายที่ดีขึ้น การจ้องจอนาน ๆ มักนำมาซึ่งอาการปวดตา ปวดคอ หรือออฟฟิศซินโดรม เมื่อเราได้พักจากจอ จะช่วยลดอาการเหล่านี้ ทำให้ร่างกายผ่อนคลายขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้นอนหลับสนิทมากขึ้น เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอเป็นตัวการสำคัญที่รบกวนการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้เรานอนหลับลึก

ต่อมาคือ สุขภาพใจที่สงบขึ้น หลายครั้งการเลื่อนดูโซเชียลมีเดียทำให้เราเผลอเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนอื่นแบบไม่รู้ตัว เกิดความเครียด ความกังวล หรือแม้แต่ความรู้สึกโดดเดี่ยว การพักจากจอช่วยให้เรามีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ใครที่เคยรู้สึกวุ่นวายใจจากการเสพข่าวสารมากเกินไป จะพบว่าความเงียบสงบเล็ก ๆ นั้นมีคุณค่าแค่ไหน

อีกหนึ่งประโยชน์สำคัญคือ ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้น การวางมือถือแล้วหันมาพูดคุยกับคนรอบข้างแบบเห็นหน้าเห็นตาจริง ๆ ทำให้บทสนทนามีคุณภาพมากขึ้น ทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความเข้าใจกันจะเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น เมื่อไม่มีหน้าจอมาคั่นกลาง

นอกจากนี้ Digital Detox ยังช่วยให้เรา มีสมาธิมากขึ้น เพราะการแจ้งเตือนที่เด้งขึ้นมาตลอดเวลาทำให้สมองเสียสมาธิได้ง่าย เมื่อเราหยุดพักจากสิ่งรบกวนเหล่านี้ จะทำให้เราจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมที่รัก

ลองเริ่มจากการจัดเวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น งดใช้โทรศัพท์ก่อนนอน 1 ชั่วโมง หรือใช้เวลาช่วงวันหยุดทำกิจกรรมแบบไม่มีอุปกรณ์ดิจิทัลเป็นส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ออกไปเดินเล่นในสวน หรือทำอาหารมื้อโปรด เท่านี้ก็จะช่วยให้ใจและกายของเราสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

Digital Detox ไม่ใช่การตัดขาดจากโลก แต่เป็นการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตจริงกับชีวิตออนไลน์ เพื่อให้เรากลับมามีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง พร้อมรับมือกับทุกวันอย่างมีพลังและความสุขอีกครั้ง