น้ำตาลเทียม (Artificial Sweeteners) เป็นสารเคมีที่ใช้แทนความหวานของน้ำตาลธรรมชาติ โดยที่ไม่มีแคลอรีหรือมีแคลอรีน้อยมาก น้ำตาลเทียมสามารถให้รสหวานได้เหมือนน้ำตาล แต่ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งทำให้มันกลายเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือผู้ป่วยเบาหวาน
แม้ว่าน้ำตาลเทียมจะมีข้อดีหลายอย่าง แต่การเลือกใช้น้ำตาลเทียมก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะน้ำตาลเทียมบางประเภทอาจมีผลข้างเคียงในระยะยาว ดังนั้นการเลือกใช้น้ำตาลเทียมที่ปลอดภัยและมีคุณภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ
สตีเวียเป็นสารให้ความหวานจากธรรมชาติที่ได้จากพืชสมุนไพรที่ชื่อว่า หญ้าหวาน (Stevia rebaudiana) ซึ่งเป็นพืชพื้นเมืองจากอเมริกาใต้ ใบหญ้าหวานมีสารที่เรียกว่า สตีวิออลไกลโคไซด์ (Steviol Glycosides) ที่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 200-300 เท่า แต่ที่เจ๋งสุดๆ คือไม่มีแคลอรีเลย! นี่จึงเป็นเหตุผลที่สตีเวียกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนรักสุขภาพ คนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก หรือผู้ป่วยเบาหวาน เพราะมันไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง แถมยังไม่ทำให้ฟันผุอีกด้วย ที่สำคัญคือสตีเวียทนความร้อนได้ดีมาก จะใส่ในกาแฟร้อนหรือขนมอบก็เอาอยู่
กระบวนการทำสตีเวียก็เริ่มจากการเก็บใบหญ้าหวาน มาสกัดเอาสารหวานออกมา กรองให้บริสุทธิ์ แล้วแปรรูปเป็นผงหรือของเหลวพร้อมใช้ แต่ถึงจะดีขนาดนี้ก็ต้องกินในปริมาณที่เหมาะสมนะ! ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) บอกไว้ว่าควรกินไม่เกิน 4 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน และอย่าลืมเช็คฉลากทุกครั้งก่อนซื้อ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสารอื่นผสมมาด้วย แบบนี้ก็หวานได้แบบสบายใจ ไร้กังวลเลยล่ะ!
แอสปาร์แตมเป็นสารให้ความหวานสังเคราะห์ที่หลายคนอาจเคยเห็นชื่อบนฉลากเครื่องดื่มหรือขนมหวานแบบ “Sugar-Free” เจ้าสารนี้ทำมาจากกรดอะมิโน 2 ชนิดคือ กรดแอสปาร์ติก (Aspartic Acid) และ ฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่พบได้ในโปรตีนจากธรรมชาติ อย่างเนื้อสัตว์และพืช แอสปาร์แตมมีความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 200 เท่า แต่ให้พลังงานน้อยมากๆ จนแทบจะนับเป็นศูนย์เลยล่ะ!
ด้วยรสชาติที่ใกล้เคียงกับน้ำตาลธรรมชาติ ทำให้แอสปาร์แตมเป็นตัวเลือกยอดนิยมในเครื่องดื่ม น้ำอัดลมไดเอท หมากฝรั่ง และขนมต่างๆ อย่างไรก็ตาม แอสปาร์แตมจะไม่ทนความร้อนสูงเท่าไหร่ จึงเหมาะกับอาหารและเครื่องดื่มเย็นๆ มากกว่า ใครที่กำลังมองหาความหวานแบบไม่ต้องกังวลเรื่องแคลอรี แอสปาร์แตมก็ถือเป็นตัวช่วยที่ดีทีเดียว แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมนะ เพราะทุกอย่างที่มากเกินไปก็ไม่ดีต่อร่างกายเหมือนกัน!
ซูคราโลสเป็นสารให้ความหวานสังเคราะห์ที่ได้จากน้ำตาลจริงๆ แต่มันถูกปรับโครงสร้างทางเคมีเล็กน้อย ทำให้ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายและดูดซึมมันได้ เลยกลายเป็นสารให้ความหวานแบบ “0 แคลอรี” ไปโดยปริยาย
เจ้าซูคราโลสนี้มีความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 600 เท่า แต่ยังคงความหวานที่เป็นธรรมชาติ ไม่ขมติดลิ้น และที่เด็ดสุดๆ คือมันทนความร้อนได้ดีมาก เหมาะกับการใช้ในอาหารและเครื่องดื่มร้อนๆ รวมถึงขนมอบต่างๆ ได้แบบสบายๆ จึงเป็นที่นิยมในผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น น้ำอัดลมไดเอท ขนมหวานแบบ “Sugar-Free” และซอสต่างๆ
ใครที่อยากได้ความหวานแบบไร้กังวลเรื่องแคลอรี ซูคราโลสก็ตอบโจทย์สุดๆ เลยล่ะ แต่ถึงจะดีแค่ไหน ก็อย่าลืมบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมกันด้วยนะ
ไซลิทอลเป็นสารให้ความหวานจากธรรมชาติที่ได้จากพืช เช่น เปลือกต้นเบิร์ช หรือวัสดุจากพืชที่มีเส้นใยเยอะๆ อย่างข้าวโพด เจ้าสารนี้เป็นน้ำตาลแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งที่ให้ความหวานใกล้เคียงกับน้ำตาลธรรมชาติ แต่มีแคลอรีต่ำกว่าเกือบ 40%
จุดเด่นที่หลายคนชอบก็คือ ไซลิทอลไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงปรี๊ด จึงเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน และที่สำคัญคือมันช่วย ลดความเสี่ยงของฟันผุ เพราะแบคทีเรียในปากไม่สามารถย่อยไซลิทอลได้ เห็นได้บ่อยๆ ในหมากฝรั่ง ลูกอม และยาสีฟัน ยิ่งเคี้ยวก็ยิ่งดีต่อฟัน
แต่ถึงแม้จะมีข้อดีเพียบ ไซลิทอลก็ต้องบริโภคอย่างเหมาะสมนะ เพราะถ้ากินมากเกินไปอาจทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนได้ เอาเป็นว่าหวานได้แบบสบายใจ แถมฟันยังแข็งแรงอีกด้วย
แม้ว่าน้ำตาลเทียมจะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็ไม่ควรใช้ในปริมาณมากเกินไป เนื่องจากบางชนิดอาจมีผลข้างเคียง เช่น อาการปวดท้อง หรือการท้องเสียหากบริโภคในปริมาณมากเกินไป ดังนั้น ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะและเลือกน้ำตาลเทียมที่ปลอดภัยสำหรับสุขภาพ
น้ำตาลเทียมเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดการบริโภคน้ำตาลธรรมชาติ แต่ก็ต้องเลือกใช้อย่างระมัดระวัง ควรเลือกน้ำตาลเทียมจากธรรมชาติ เช่น สตีเวีย หรือซูคราโลส ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและไม่ทำให้แคลอรีเพิ่มขึ้น การเลือกน้ำตาลเทียมที่เหมาะสมสามารถช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มที่หวานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพ
เว็บไซต์: www.ChillDee.com
อีเมล์: admin@ChillDee.com